2024 ผู้เขียน: Gavin MacAdam | [email protected]. แก้ไขล่าสุด: 2023-12-16 13:46
Tuberous butene (lat. แชโรฟิลลัม บูลโพซัม) - ไม้ยืนต้นล้มลุกในสกุล Buten (ละติน Chaerophyllum) ซึ่งเป็นของตระกูล Umbelliferae (Latin Umbelliferae) หรือ Celery (Latin Apiaceae) หัวใต้ดินของพืชมีแป้ง 20 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นผู้คนจึงปลูก Butena tuberous เพื่อขยายอาหาร หัวจะกินดิบหรือต้มหรือทอดเช่นมันฝรั่ง ใบอ่อนที่มีก้านสปริงฉ่ำยังใช้สำหรับโภชนาการเพิ่มลงในซุปและ Borscht ความสามารถในการรักษาประเภทนี้คุ้นเคยกับหมอพื้นบ้านมานานแล้ว
คุณชื่ออะไร
เราเรียนรู้เกี่ยวกับความหมายของชื่อละตินของสกุล "Chaerophyllum" ในบทความที่อธิบายสกุล Buten
สำหรับชื่อสปีชีส์ "bulbosum" (หัวใต้ดิน) ระบบรากของพืชซึ่งประกอบด้วยเครือข่ายของรากที่มีหัวซึ่งคล้ายกับแครอทขนาดกลางภายนอกได้ลองใช้ชื่อนี้ ด้วยระบบรากดังกล่าว พืชจึงแตกต่างจากสกุลอื่นๆ ซึ่งเหง้าอยู่ใต้ดิน เช่น ใน Aromatic Butn (lat. Chaerophyllum aromaticum)
ชื่อทางพฤกษศาสตร์ที่เป็นทางการมีชื่อที่มีความหมายเหมือนกันหลายชื่อที่ผู้คนกำหนดให้กับพืช อย่างแรก ฉายาเฉพาะภาษาละตินไม่ได้แปลโดยคำว่า "tuberous" เท่านั้น แต่ยกตัวอย่างเช่นโดยคำว่า "tuberous" นอกจากนี้ยังมีชื่อเช่น Chervil Turnip, Wild Carrot, Wild Parsley, Hazelnut, Pupyri และอื่น ๆ อีกมากมาย
คำอธิบาย
การปรากฏตัวของส่วนทางอากาศของ Butnya tuberous นั้นคล้ายกับสายพันธุ์อื่นในสกุล บางทีนักพฤกษศาสตร์ตัวจริงเท่านั้นที่สามารถแยกแยะสายพันธุ์หนึ่งจากอีกสายพันธุ์หนึ่งได้อย่างรวดเร็วก่อน
เป็นไม้ล้มลุกที่มีลำต้นแตกแขนงซึ่งมีความสูงแตกต่างกันไปตามสภาพความเป็นอยู่ตั้งแต่หกสิบเซนติเมตรถึงเกือบสองเมตร ส่วนล่างของลำต้นได้รับการปกป้องโดยขนที่มีขนหนาแน่นซึ่งจะหายไปพร้อมกับความสูงโดยปล่อยให้ลำต้นเปลือยเปล่า
ใบไม้สีเทาอมเขียวที่ผ่าตามแบบฉบับดั้งเดิมจะเปลี่ยนพุ่มไม้สูงให้กลายเป็นผลงานที่งดงามของธรรมชาติ ตามเนื้อผ้าก้านใบจะมีพฤติกรรมยาวอยู่ในส่วนล่างของลำต้นจากนั้นค่อยๆลดลงและหายไปอย่างสมบูรณ์ที่ใบนั่งบน
ช่อดอกรูปร่มของบุตเนียมีหัว เกิดจากดอกขนาดเล็กจำนวนมากที่มีกลีบดอกสีขาวไม่แตกต่างจากสกุลอื่น
แต่ส่วนใต้ดินของพืชมีความโดดเด่นด้วยหัวที่ไม่เหมือนใครซึ่งมีแป้งอยู่หนึ่งในห้ารวมถึงสารเคมีต่าง ๆ มากมายที่ทำให้ผักกลายเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่มีประโยชน์และอร่อยมาก
ผลิตภัณฑ์อาหาร
บิวทีนหัวใต้ดินได้รับการปลูกฝังโดยชาวยุโรปตั้งแต่สมัยโบราณ ทุกวันนี้ หัวผักกาดที่มีคุณค่าทางโภชนาการถูกลืมไปบ้าง แต่เมื่อมองแวบแรก คุณจะเห็นผักที่ไม่สวยและเรียบง่ายในตลาดของเกษตรกร คล้ายกับแครอทอวบอ้วนสั้นๆ ที่มีสีหม่นๆ ของมันฝรั่งสกปรก ตรงกันข้ามกับรูปลักษณ์ที่ไม่น่าดึงดูดของผัก ความสนใจถูกดึงดูดไปยังราคาที่สูงผิดปกติต่อกิโลกรัม ซึ่งเท่ากับ 17 ยูโร ซึ่งแพงกว่าแครอทถึงสิบห้าเท่า
ราคาที่สูงนั้นเกิดจากกระบวนการที่ยาวนานในการได้มาซึ่งพืชหัวที่กินได้ พืชที่ปลูกในเดือนพฤศจิกายนจะให้ผลแก่ชาวสวนในเดือนกรกฎาคมของปีถัดไปเท่านั้น จากนั้นให้เก็บหัวใต้ดินไว้ในห้องใต้ดินนานถึงสามเดือนเพื่อพัฒนารสชาติที่หวานอร่อย
แฟน ๆ ของอาหารประเภทผักต่างเน้นที่มันฝรั่งบดที่อร่อยผิดปกติซึ่งทำจากพืชหัวของ Butnya tuberous ซึ่งยากมากที่จะเปรียบเทียบกับสิ่งใด ดังนั้นจึงสรุปได้ว่ารูปลักษณ์ที่ไม่น่าดึงดูดของผักนั้นหลอกลวงมาก โดยซ่อนผลิตภัณฑ์ที่อร่อยอย่างน่าประหลาดใจไว้ข้างใต้
ความสามารถในการรักษา
ทุกส่วนของ Butnya tuberous รวมทั้งน้ำที่ไหลไปตามลำต้นและใบของพืชนั้นอุดมไปด้วยสารที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์
หมอแผนโบราณใช้ Tuberous Buten ในโรคของอวัยวะย่อยอาหาร อวัยวะระบบทางเดินหายใจ (รวมถึงวัณโรคในปอด) เพื่อป้องกันหลอดเลือด โรคหวัด และอาการวิงเวียนศีรษะ
น้ำผลไม้จากลำต้นและใบสดใช้รักษาบาดแผลที่ผิวหนังและต่อสู้กับฝี
